ในเด็กเล็กที่ดื่มนมเป็นหลัก จะมีอุจจาระที่เหลวกว่าผู้ใหญ่อยู่แล้วเป็นปกติ แต่หากเด็กทารกอุจจาระเหลวเป็นน้ำ วันละหลายๆครั้ง หรือมีกลิ่นเหม็นเน่า มีมูกผิดปกติ หรือทารกอุจจาระมากกว่า 200 กรัมต่อวัน นี่คืออาการที่ไม่ปกติ และแสดงถึงภาวะท้องร่วง
สิ่งแรกที่คุณแม่หรือคุณพ่อลูกอ่อนต้องประเมินเมื่อลูกมีอาการท้องร่วง คือความรุนแรงของอาการ เพื่อที่จะตัดสินใจต่อว่า ต้องรีบพาลูกไปโรงพยาบาล หรือสามารถซื้อยามากินเองได้ ซึ่งสามารถประเมินเบื้องต้นได้โดยสังเกตอาการอื่นๆของลูก โดยถ้าลูกน้อยมีอาการซึม ชัก อ่อนเพลีย ไม่ยอมกิน ปากแห้ง อาการท้องเสียรุนแรง หรืออาการผิดปกติอื่นๆที่เห็นได้ชัด คุณแม่หรือคุณพ่อต้องรีบพาลูกไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลทันที
ในกรณีที่เด็กเล็กมีอาการท้องร่วงที่ไม่รุนแรง และไม่มีอาการอื่นๆ ผู้ปกครองอาจดูแล สังเกตอาการได้เองเบื้องต้น โดยสิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือการให้สารละลายเกลือแร่ทดแทนน้ำทางปาก (oral rehydration solution, ORS) โดยต้องเลือกให้ ORS สำหรับท้องเสียเท่านั้น ห้ามให้เกลือแร่สำหรับนักกีฬาแทน เพราะอาจทำให้เด็กทารกอาการแย่ลงได้
นอกจากนี้อาจให้ยารักษาท้องร่วงที่ปลอดภัยในเด็กร่วมกับการให้สารน้ำ ORS ได้
· หากเด็กอายุมากกว่า 2 ปี สามารถเลือกให้ยารักษาท้องร่วงประเภทดูดซับ หรือยากลุ่มโพรไบโอติกส์ที่มีข้อบ่งใช้สำหรับรักษาท้องเสียเช่น แซคคาโรมัยเซส บูลาร์ดิอี ที่เป็นยีสต์
· ในเด็กทารกที่อายุน้อยกว่า 2 ปี ยาที่ปลอดภัยที่สุดคือ ยาที่มีส่วนประกอบของแซคคาโรมัยเซส บูลาร์ดิอี ซึ่งสามารถให้ได้ในเด็กทารกตั้งแต่อายุ 2 เดือนขึ้นไป โดยให้พร้อมกับนมได้เลยโดยที่เด็กไม่ต้องหยุดนม
ทั้งนี้ผู้ปกครองต้องคอยสังเกตอาการของเด็กอย่างระมัดระวังด้วย หากอาการไม่ดีขึ้นใน 3 วัน หรือมีอาการผิดปกติอื่นๆ ให้รีบพาไปพบแพทย์ทันที
*หมายเหตุ ควรปรึกษาเภสัชกร และอ่านฉลากยาให้เข้าใจก่อนใช้ยา
เขียนโดย: ภญ.ทิพศรา เภตราไชยอนันต์
อ้างอิงจาก: แนวทางเวชปฏิบัติการดูแลรักษาโรคท้องร่วงเฉียบพลันในเด็ก พ.ศ. 2562
Comentarios